กรรมฐานรักษาโรคเบาหวาน

โดย ละออง ตะบูนพงษ์

ข้าพเจ้าขอเล่าเรื่องชีวิตของข้าพเจ้าในอดีตที่ล่วงมา เพื่อให้เห็นผลของกฎแห่งกรรม จากการกระทำที่ผ่านมาว่าเป็นความจริงเพียงใด

ข้าพเจ้าเกิดที่บ้านเลขที่ ๕๓ หมู่ ๓ ตำบลบางแก้ว อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม (แม่กลอง) บิดาเป็นคนจีนที่เดินทางมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ ตอนที่ท่านอายุได้ ๑๔ ปี คุณแม่เป็นคนไทยลูกหม่อนนุ่น ณ บางช้าง ข้าพเจ้าเป็นบุตรคนที่สอง ในจำนวนพี่น้องทั้งสิ้น ๘ คน มีพี่สาวเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวชื่อ บังเอิญ ดีรักษา

บ้านเกิดของข้าพเจ้าอยู่ชายทะเลเลียบคลองบางจะเกร็ง ข้าพเจ้าเป็นคนมีนิสัยไม่ชอบการฆ่าสัตว์ทำผิดศีลปาณาติบาตมาตั้งแต่สมัยเป็นเด็ก เคยเห็นเตี่ยเอาไก่มาขังไว้เพื่อที่จะฆ่ากินในวันตรุษจีน ข้าพเจ้าก็จะแอบไปปล่อย ทำให้เตี่ยโกรธมาก ไล่ตีไล่ด่าข้าพเจ้ามากมาย แต่กรรมที่ข้าพเจ้าเคยกระทำก็มี คือข้าพเจ้าเคยไปปักปูม้าและปูทะเลกับพี่สาว และเตี่ยตามประสาคนยากจน

ข้าพเจ้าเรียนหนังสือได้ถึงชั้นประถม ๔ ก็ต้องตามเตี่ยไปทำถนนที่วัดพรหมแดน คุณครูท่านเมตตาตามหาข้าพเจ้าเพื่อเรียกไปรับทุนเรียนหนังสือต่อที่อำเภอ แต่ก็ถูกเตี่ยขอร้องให้ช่วยเตี่ยทำงานก่อน เพราะมีน้องอีกหลายคนที่ทางทำมาหากินก็ไม่มี ต้องรับจ้างเขาทำงาน ข้าพเจ้าจึงต้องไปสละสิทธิในการขอรับทุนที่อำเภอ

ข้าพเจ้าต้องทำงานทุกอย่าง ต้องช่วยเตี่ยปั้นตุ่มซีเมนต์ ขายใบละ ๑๐๐ บาท และ ๑๔๐ บาท ต้องออกทะเลไปส่งเขา เมื่อส่งเสร็จก็จะรับฟืนมาขายอีก เวลาว่างก็ต้องเคี่ยวตาล ต้องทำงานทุกอย่างเพราะความยากจน ทำให้ข้าพเจ้ามุมานะ และคิดเอาไว้ว่า วันหนึ่งข้าพเจ้าต้องรวยให้ได้

ข้าพเจ้าทำทุกอย่าง จนบางครั้งบางคนมองข้าพเจ้าว่าบ้า เพราะข้าพเจ้าจริงจังและทำทุกอย่างที่สามารถจะทำได้ มัดปูเสร็จเห็นคลอกข้างทางก็ตัดเอามาเย็บขาย ต้นละ ๑๐ สตางค์ ปูกิโลละ ๒ – ๓ บาทเท่านั้น ถ้าเป็นปูม้าก็จะตกร้อยตัว ๘ – ๑๐ บาทเท่านั้น ไม่เหมือนสมัยนี้ที่ตัวละเกือบ ๑๐๐ บาท

ส่วนเตี่ยและแม่ท่านก็ชอบเล่นการพนัน เป็นเหตุให้ข้าพเจ้าและพี่สาวต้องขมขื่นใจมาก เพราะต้องช่วยกันทำงานตลอด น้องก็ยังเล็ก ๆ อยู่ทุกคน ดีว่ายายท่านเมตตารับเลี้ยงดูแทนแม่ น้อง ๆ ก็ต้องดูดนมยายแทนแม่ จนบางครั้งน้ำเหลืองท่านออก ยายข้าพเจ้าชื่อยายเรือง ณ บางช้าง ข้าพเจ้ารักท่านมาก แต่พี่สาวข้าพเจ้าไม่ชอบขายของ ไม่เหมือนข้าพเจ้าที่ทำทุกอย่างได้เพื่อเงิน เพราะพูดไว้ตั้งแต่ตอนเป็นเด็กแล้วว่า จะต้องรวยให้ได้

ข้าพเจ้าเคยห้ามปรามเตี่ยถึงเรื่องการทำผิด คิดไปในทางไม่ดี เช่น การเบียดเบียนสัตว์ จนทำให้เตี่ยหาว่าข้าพเจ้าบ้า นำข้าพเจ้าไปที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา ไปให้หมอตรวจ หมอก็ตั้งคำถามถามข้าพเจ้าว่า ข้าพเจ้ามาเรือบินมาได้อย่างไร มารถไฟ หรือรถยนต์ หรือเดินมาจากบ้าน ข้าพเจ้าก็ตอบว่ามาทางรถไฟจากมหาชัยถึงวงเวียนใหญ่ และก็มาที่โรงพยาบาลนี้ พอตอบหมอเสร็จ หมอก็หันมาบอกเตี่ยว่า ลูกของคุณความจำดีมาก ไม่ได้เป็นอะไรเลย แต่พอกลับจากแม่กลอง เตี่ยก็พาข้าพเจ้าไปรดน้ำมนต์ รดจนข้าพเจ้าเป็นหวัด

เหตุการณ์เลยมาจนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๕๓๒ ข้าพเจ้าได้ขึ้นไปทำงานที่เชียงใหม่ และวันหนึ่งขณะที่ข้าพเจ้าเข้าส้วม ข้าพเจ้าสังเกตเห็นมด มักเข้ามาตอมที่ส้วม ทำให้ข้าพเจ้าสงสัยและไปตรวจเบาหวาน ผลปรากฏว่า ตรวจพบน้ำตาลขึ้นถึง ๒๕๐ เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนั่นก็แปลว่าข้าพเจ้าได้เป็นโรคเบาหวานแล้ว โรคเบาหวานทำให้ข้าพเจ้าต้องทรมานมาก และหมดกำลังที่จะทำงาน อยากตายอย่างเดียว

สาเหตุที่ทำให้ข้าพเจ้าต้องเป็นเบาหวาน เพราะเครียดกับงาน และเรื่องสำคัญที่ทำให้ข้าพเจ้าเครียดมาก คือเรื่องในอดีตต่าง ๆ ของข้าพเจ้า ที่มักวนเวียนเข้ามาทำร้ายจิตใจข้าพเจ้า ข้าพเจ้าคิดถึงเมียและลูกในอดีต คิดถึงเรื่องเมียคนแรกที่พยายามสอนลูกให้เกลียดข้าพเจ้าทุกวิถีทาง ข้าพเจ้ารักลูกมาก แต่ก็ถูกกีดกันต่าง ๆ ทำให้เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ข้าพเจ้าเครียดมาก

เหตุการณ์เลยไปจนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๕๓๗ ข้าพเจ้าได้มาพบกับหลวงพ่อจรัญ ที่ข้าพเจ้าเคารพและถูกใจที่สุดเพราะไม่เคยพบพระที่ตีแผ่ความผิดของตัวเองมาให้รู้เป็นธรรมะ มีแต่จะปกปิดความผิดของตนเอง เมื่อข้าพเจ้าเข้าไปเพื่อปฏิบัติธรรมพร้อมกับเพื่อนที่ชื่อจิต ข้าพเจ้าอยู่ปฏิบัติที่นั่น ๗ วัน ซึ่งตลอดเวลาที่ปฏิบัติข้าพเจ้าจะตั้งใจมาก และหลวงพ่อท่านก็คอยเทศน์ให้กำลังใจ ทำให้ข้าพเจ้ามีกำลังใจขึ้นมาก จนในที่สุดอาการของข้าพเจ้าก็ดีขึ้น จนข้าพเจ้าสามารถอธิษฐานเลิกทานยาแก้โรคเบาหวานได้

และอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นกำลังใจให้ข้าพเจ้าอย่างมาก คือ การปฏิบัติตนของหลวงพ่อ ซึ่งท่านมีดวงจิตที่เข้มแข็ง ท่านไม่ยอมจำนนต่อโรคภัยของท่าน ท่านสู้ทั้งชีวิต ท่านเสียสละให้กับประชาชนโดยไม่คิดถึงตัวเองเลย เมื่อข้าพเจ้าเห็นเช่นนี้ทำให้มีกำลังใจที่จะสู้กับโรคร้าย

เดี๋ยวนี้ข้าพเจ้าแข็งแรง มีกำลังใจทำงาน เหมือนกับว่าข้าพเจ้าได้ตายไปแล้ว และได้เกิดใหม่ ซึ่งเกิดมาจากหลวงพ่อจรัญ เมื่อข้าพเจ้าไปถึงบ้านไปเล่าให้คนในบ้านฟังว่าข้าพเจ้าเป็นคนใหม่แล้ว แต่ก็ไม่มีใครเชื่อเพราะเขายังไม่เคยมาปฏิบัติ จนกระทั่งลูกชายข้าพเจ้าที่ชื่อเกื้อกูลและแม่ของเขาลองมาปฏิบัติ ซึ่งตอนนั้นลูกเกื้อกูลกำลังมีปัญหาเพราะไปได้ภรรยาเป็นคนสุพรรณ แต่พ่อแม่ทางฝ่ายผู้หญิงเขาไม่ยอมรับ เพราะลูกสาวเขาเป็นลูกคนเดียวของเขา และเขาเองก็มีสมบัติมากมาย ที่ดินก็มีอยู่มากจะคิดเป็นราคาก็หลายร้อยล้าน คุณพ่อก็เป็นเกษตรกรตัวอย่าง

แต่ก็เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจอย่างยิ่ง เพราะเมื่อลูกเกื้อกูลมาปฏิบัติธรรมพร้อมแม่ของเขา พอกลับไปที่บ้านไม่ถึงเดือน พ่อตาแม่ยายก็รับไหว้ ซึ่งตอนนี้ลูกเกื้อกูลก็เป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเขาไปแล้ว ถ้าข้าพเจ้าจะดุว่าลูกชาย แม่ยายจะรีบออกรับแทนเลย นี่คือผลจากการมาปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน