เวฬุวันกับข้าพเจ้า

โดย อุบล ลุคะราช

อุบล ลุคะราช

นับเป็นครั้งแรกในชีวิต ที่ดิฉันได้มาเจริญวิปัสสนากรรมฐาน และคิดว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีของชีวิต ที่ได้เข้ามาอยู่ฝึกปฏิบัติ ที่ศูนย์กรรมฐาน “สวนเวฬุวัน”

ในวันแรกเมื่อดิฉันรับศีลแล้ว แม่ชีผู้ฝึกท่านให้ฝึกเดินจงกรม โดยให้กำหนดยืนหนอ ๕ ครั้งช้า ๆ ซึ่งวันแรกผ่านไปดิฉันมีความรู้สึกเหมือนใจจะขาด และการย่างเท้ายังผิดและเร็วเกินไป นั่งกรรมฐานแค่ ๓๐ นาที ก็รู้สึกนานมาก นอนไม่หลับ และเกิดความรู้สึกกลัวไปหมด

วันที่สองขณะนั่งกรรมฐาน ก็รู้สึกว่ามีแมลงวันมารบกวน จับตามใบหน้า ใบหู ตา และปาก แต่ดิฉันก็พยายามกำหนดตามที่ครูฝึกแนะนำ ดิฉันจึงเริ่มทำได้ดีขึ้น และน่าแปลกที่ความรู้สึกง่วงไม่มีเลย ทั้งที่นอนไม่หลับมาทั้งคืน

วันที่สาม ตอนเช้าดิฉันรู้สึกสบายใจมาก การปรับตัวในการยืน การเดินนั้นข้าพเจ้าเริ่มปรับตัวได้ แต่การนั่งยังไม่ดี ตัวไม่ตรงจนต้องคอยยืดอยู่เรื่อย อาการปวดตามแขน ขา คอ หลัง มีมากจนกำหนดไม่ถูก ครูฝึกท่านจึงแนะนำว่า ถ้าปวดตรงไหนให้กำหนดดูที่ปวดทีละจุด พร้อมกำหนดว่า ปวดหนอ ๆ แต่ดิฉันก็ยังทำไม่ได้ ได้แต่รอคอยว่าเมื่อไหร่ระฆังจะดังขึ้นมาเสียที

วันที่สี่ในตอนเช้า หลังจากสวดมนต์ แผ่เมตตา ข้าพเจ้านึกอยากเห็นหน้าของคุณแม่ ซึ่งอยู่ต่างจังหวัด เป็นเวลาสองปีกว่าแล้ว ที่ดิฉันไม่ได้กลับบ้านเลย เขียนจดหมายมาบอกท่านว่าจะกลับทีไร ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้ไม่ได้กลับสักที ปรากฏว่า ขณะที่ดิฉันนั่งกรรมฐานอยู่นั้น ดิฉันได้เห็นหน้าแม่จริง ๆ ท่านหน้าตาเศร้าหมองบ่งบอกอาการคิดถึงดิฉัน เห็นเพียงแค่สักพักเดียวก็หายไป ทำให้ดิฉันแทบน้ำตาร่วง แต่ก็ไม่ได้เล่าให้ใครฟัง

หลังจากนั้น วันที่ห้าที่หก การปฏิบัติของข้าพเจ้าก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ การกำหนดเวทนาต่ออาการปวดก็ดีขึ้น อาการปวดก็ลดน้อยลง

วันที่เจ็ด-แปด-เก้า ข้าพเจ้าไม่คิดฟุ้งซ่านเหมือนวันแรก ๆ ความสงบของจิตใจก็มีมากขึ้น การปฏิบัติในระยะเวลา ๑ – ๒ ชั่วโมง กลับมีความรู้สึกเหมือนผ่านไปแค่ ๑๐ – ๑๕ นาที แม้แต่การนอนดิฉันยังรู้สึกแปลกใจตัวเองเลย ที่นอนในท่าตัวตรงไปพร้อมกำหนด นอนหนอ หนอนหนอ ต่อด้วย พองหนอ – ยุบหนอ ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งหลับ แต่พอตื่นขึ้นมาปรากฏว่าดิฉันยังคงนอนในท่าตัวตรงเหมือนเดิม

สิ่งที่ดิฉันได้รับจากการมาปฏิบัติธรรมฐานที่ ศูนย์ “เวฬุวัน” แห่งนี้

๑. ดิฉันได้เพื่อนใหม่ ที่เข้ามาปฏิบัติในช่วงเวลาเดียวกันหลายท่าน และทุกท่านเป็นคนดีมีน้ำใจ

๒. ดิฉันมีความอดทนดีขึ้นมาก ทั้งอดทนต่อเวทนา และอารมณ์

๓. ดิฉันมีสติ และสมาธิในการทำงาน ทำให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

๔. ทำให้ดิฉันใช้เวลาในการนอนน้อยลง ซึ่งปกติดิฉันจะตื่นสาย เพราะต้องนอนให้ได้วันละ ๘ – ๑๐ ชั่วโมงตามหลักสุขบัญญัติ ๑๐ ประการ แต่เมื่อได้มาฝึกกรรมฐานแล้ว ดิฉันสามารถลดการนอนลงเหลือเพียง ๕ – ๖ ชั่วโมง

๕. รู้สึกเบาตัว สบายตัว สบายใจ ไม่เป็นคนคิดมากเหมือนแต่ก่อนที่ผ่านมา

๖. ใบหน้าที่เศร้าหมอง อมทุกข์ กลับผ่องใสผิดกันเป็นคนละคน