ชีวิตคือการเดินทาง

โดย ปรุง พวงนัดดา*

ปรุง พวงนัดดา

ถ้าหากจะพูดว่า ชีวิตคือการเดินทาง ก็คงจะไม่ผิด เพราะทุกคนที่เกิดมาล้วนต้องเดินทางด้วยกันทั้งนั้น

การเดินหรือการเดินทาง ในความหมายตรงๆ ย่อมได้แก่ระยะทาง เดินทางมากก็ได้ระยะทางมาก เดินทางน้อยก็ได้ระยะทางน้อย

แต่การเดินทางของชีวิตหรือที่เรียกว่า ชีวิตคือการเดินทางนั้น อาจจะได้ระยะทางก็ได้ หรือไม่ได้ระยะทางก็ได้ แต่ที่ต้องได้แน่ๆ คือ ได้อายุมากขึ้น

ถ้าเชื่อว่าชีวิตคือการเดินทาง ทุกคนย่อมต้องการการเดินทางที่ยาวนานที่สุด นั่นคือ ต้องการให้ได้อายุมากที่สุด ต้องการให้อายุยืนยาวที่สุด

ทั้งๆ ที่การมีอายุ มีทั้งทุกข์ มีทั้งสุข มนุษย์ทุกคนต้องการความสุข ต้องการสิ่งดี ๆ แต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีมนุษย์ไหนเลยในโลกนี้ ที่ได้สมความปรารถนา ทุกคนพบความทุกข์ ได้สิ่งที่ไม่ดี มีสิ่งที่ไม่อยากได้ ด้วยกันทั้งนั้น มากบ้าง น้อยบ้าง ต่าง ๆ กันไป

ถ้าจะเปรียบชีวิตเป็นเช่นการเดินทาง ก็คงไม่ต่างไปจากการเดินทางไปในความยากลำบาก เสี่ยงอันตราย และแม้กระทั่งการต้องเดินทางไปในความมืดมิดที่ไม่รู้จุดหมายปลายทาง

ใครจะมีความเห็นอย่างไรคงไม่ว่ากัน แต่ผู้เขียนมีความเห็นว่าคนที่นับถือพุทธศาสนาถือว่าเป็นคนโชคดี เพราะนอกจากจะมีพระธรรมคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นหลักสำคัญในการดำรงชีวิตแล้ว ยังมีพระสงฆ์คอยให้แสงสว่างในยามที่ชีวิตกำลังเดินทางอยู่ในความมืด และให้กำลังใจในยามชีวิตกำลังอ่อนแรง ท้อแท้ ต่อการเดินทาง

ครั้งหนึ่ง ผู้เขียนมีความทุกข์อันเนื่องมาจากการทำงาน เพราะต้องผจญกับคนที่เหมือนกับมาร ได้สู้อุตส่าห์ตั้งสติ พลิกตำราที่ศึกษาเล่าเรียนมา แล้วนำวิทยายุทธ์ที่ปรมาจารย์ว่าเยี่ยม ๆ ออกมาใช้ แต่จะใช้ยังไง ๆ ก็ปราบไม่ได้สักที จนเกือบจะยอมแพ้อยู่แล้ว ถ้าเปรียบกับการเดินทาง ก็คงไม่ต่างไปจากการเดินทางไปในถ้ำมืดที่เต็มไปด้วยหินโสโครก และสัตว์ร้ายนานาพันธุ์นั่นเทียว

แต่ชะรอยบุญเก่าคงยังพอมีอยู่บ้าง จึงทำให้นึกถึงหลวงพ่อผู้เป็นที่เคารพ และเลื่อมใสศรัทธามาช้านาน จึงเดินทางมากราบนมัสการ เล่าเหตุการณ์ให้หลวงพ่อฟัง และขอให้ช่วย

แสงสว่างที่หลวงพ่อให้ในครั้งนั้น คือ ให้แผ่เมตตาต่อพญามารทั้งหลาย ตั้งความปรารถนาให้เขามีความสุขความเจริญ อย่ามีเวรมีกรรมต่อกันเลย ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนไปเถิด

พอได้แสงสว่างเช่นนั้น ก็ทำให้คนเดินทางที่กำลังสิ้นหวัง กลับเพียบพร้อมด้วยพละกำลังอีกครั้งหนึ่ง และสามารถเดินทางต่อไปได้อย่างดี

หลวงพ่อของผู้เขียน คือ พระราชสุทธิญาณมงคล

และขอยืนยันว่า ไม่เฉพาะแต่ผู้เขียนเท่านั้น ที่เวลามีปัญหาหรือมีความทุกข์แล้วไปหาหลวงพ่อ ใคร ๆ ก็หาหลวงพ่อเพื่อให้ท่านชี้ทางสว่างให้

หลวงพ่อไม่เคยรังเกียจ ไม่เคยแสดงความเหน็ดเหนื่อย มีแต่ความเมตตากรุณาให้ทุกคนตลอดเวลา แสงสว่างที่หลวงพ่อให้ เป็นแสงสว่างที่มาจากธรรมะของพระพุทธศาสนา หลวงพ่อปรุงปรับแสงนั้นให้สว่างพอเหมาะพอดีกับคนแต่ละคน ทุกคนจึงได้ประโยชน์จากแสงสว่างที่ให้อย่างเต็มที่

และไม่เพียงแต่เท่านั้น ความจริงที่อยู่เหนือความจริงก็ยังมีอยู่ โดยไม่มีความจำเป็นต้องพิสูจน์กันแต่อย่างใด

หลายคน หลายครั้ง มีความทุกข์ มีความในใจ ตั้งใจจะไปขอให้หลวงพ่อช่วย เพียงไปถึงหลวงพ่อ ยังไม่ทันได้เอ่ยถ้อยคำใดออกมา หลวงพ่อก็ให้สิ่งที่อยากได้นั้นแล้ว โดยออกมาเป็นคำสอน คำแนะนำ และกำลังใจ

เหตุดังยกมาข้างต้นนี้ เป็นเพียงส่วนน้อยนิดแห่งเมตตาบารมีของหลวงพ่อเท่านั้น ไม่มีใครสามารถพรรณนาเมตตาบารมีของท่านที่มีต่อผู้คนทุกคนให้ครบถ้วนได้

ทุกชีวิตกำลังเดินทาง ทุกชีวิตกำลังต้องการแสงสว่างเพื่อนำทาง และทุกชีวิตก็คงกำลังเสาะแสวงแสงสว่างกันอยู่

ส่วนใครจะพบไม่พบ ใครจะได้แสงสว่างมากแสงสว่างน้อย คงเป็นเรื่องเฉพาะตัว

สำหรับผู้เขียน หลวงพ่อได้เมตตาให้แสงสว่างมานานแล้ว ขณะนี้ก็ให้อยู่ และจะขอแสงสว่างจากหลวงพ่อนำทางชีวิตตลอดไป

* ปรุง พวงนัดดา รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการ การประถมศึกษาแห่งชาติ