แรงอธิษฐานทำให้หายป่วยได้จริงหรือ

โดย สมภพ ชัยวิศิษฎ์
(อดีตสาธารณสุขอำเภอ จ.ขอนแก่น)

ข้าพเจ้ากับบุตรชายได้ร่วมเดินทางโดยรถตู้จากขอนแก่น พร้อมด้วยคณะนำโดยอาจารย์ บุญส่ง อินทวิรัตน์ ถึงวัดอัมพวัน เมื่อเวลา ๔.๐๐ น. วันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๓๖ ได้เข้าพักที่ศาลารับรองแขก ของหลวงพ่อพระราชสุทธิญาณมงคล เพื่อรอกราบนมัสการท่าน และขออนุญาตเข้าฝึกปฏิบัติกรรมฐานเป็นเวลา ๗ วัน

เมื่อได้รับอนุญาตจากท่านแล้ว ก็พากันไปรายงานตัวต่อแม่ใหญ่ และลงทะเบียนกับคณะกรรมการของวัด รับการแนะนำระเบียบการต่าง ๆ เป็นที่เข้าใจแล้วเข้าที่พัก

วันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๓๖ เวลา ๑๓.๐๐ น. ผู้ปฏิบัติธรรมทั้งใหม่และเก่าพร้อมกันที่ศาลาสุธรรมภาวนา รับศีล ๘ รับพระกรรมฐาน และฟังโอวาทจากหลวงพ่อพระราชสุทธิญาณมงคล

เสร็จแล้วเริ่มดำเนินการฝึกปฏิบัติโดยมี แม่ชีซูง้อ แซ่เอ็ง เป็นผู้แนะนำการฝึกปฏิบัติ

ข้าพเจ้าอยากจะขอแนะนำ สมาชิกใหม่ที่จะเดินทางไปวัดอัมพวัน เพื่อฝึกปฏิบัติกรรมฐาน ได้ทราบกำหนดเวลาปฏิบัติประจำ วันเป็นการล่วงหน้าไว้ดังนี้

 

กำหนดเวลา

ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน

เช้า

๓.๓๐ น.

ตื่นนอน ทำธุระส่วนตัว

๔.๐๐ น.

พร้อมกันที่ศาลาปฏิบัติธรรม เดินจงกรม นั่งสมาธิ

๖.๓๐ น.

แผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลพร้อมกัน

๗.๐๐ น.

รับประทานอาหารเช้า

๘.๐๐ น.

ปฏิบัติธรรม เดินจงกรม นั่งสมาธิ

๑๑.๐๐ น.

แผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลพร้อมกัน รับประทานอาหารกลางวัน

 

บ่าย

๑๓.๐๐ น.

ปฏิบัติธรรม เดินจงกรม นั่งสมาธิ

๑๗.๐๐ น.

แผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลพร้อมกัน ดื่มน้ำปานะ พักผ่อน

 

ค่ำ

๑๘.๓๐ น.

ปฏิบัติธรรม เดินจงกรม นั่งสมาธิ

๒๐.๓๐ น.

แผ่เมตตา อุทิศส่วนกุศลพร้อมกัน พักผ่อน ทำธุระส่วนตัว นอน

 

วันพระ

ภาคเช้า

ปฏิบัติธรรมพร้อมกันที่ศาลาปฏิบัติธรรม

 

ภาคบ่ายและภาคค่ำ

ปฏิบัติที่พระอุโบสถ และรับฟังธรรมบรรยาย สรุปการปฏิบัติจากหลวงพ่อ พระราชสุทธิญาณมงคล

 

หมายเหตุ

สถานที่สำหรับการปฏิบัติ อาจเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม

ในระหว่างที่ข้าพเจ้าและบุตรชายของข้าพเจ้า เข้ารับการฝึกปฏิบัติอยู่ที่วัดอัมพวันนี้ ตลอด ระยะเวลา ๗ วัน ข้าพเจ้าได้ตั้งใจฝึกปฏิบัติตามทุกขั้นตอน ด้วยความอดทน

ฝึกครบทุกช่วงทุกตอนจนเกิดภาวะจิตสงบ และการปฏิบัติเป็นประจำคือ ก่อนการฝึก พากันสวดมนต์ ไหว้พระพร้อมกันแล้วแยกเดินจงกรม นั่งสมาธิ

ถ้าหากเดินจงกรม ๑/๒ ชั่วโมง ก็นั่งสมาธิ ๑/๒ ชั่วโมง และวันต่อไปก็พยายามเพิ่มเวลาขึ้นอีกจนถึง ๑ ชั่วโมง

เมื่อจวนถึงเวลาพักผ่อน แต่ละช่วง จะมีแม่ชีครูฝึกมากล่าวนำแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศล แก่มารดา บิดา ญาติพี่น้อง เทวดาทั้งหลาย เปรตทั้งหลาย และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ให้มีความสุขโดยทั่วกัน ตลอดจนกรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวร เพื่อขออโหสิกรรม

สุดท้าย ข้าพเจ้าก็ตั้งใจอธิษฐานจิต แผ่ส่วนบุญให้แก่ภรรยา ข้าพเจ้ากล่าวในใจว่า

ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จแก่ ภรรยาของข้าพเจ้า นางแสงจันทร์ ชัยวิศิษฎ์ จงหายจากโรคที่ป่วยอยู่ คือ โรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ และโรคอื่น ๆ ที่มีภายในร่างกาย จงหายไปหมดสิ้นด้วยเถิด ตลอดจงมีแต่ความสุขใจ สุขกาย

แล้วก็ก้มลงกราบพระประธานทุกองค์ ๓ ครั้ง ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติ เช่นนี้ทุกครั้งที่ปฏิบัติทุก ๆวัน

ส่วนเวลาว่างหลังจากการปฏิบัติในแต่ละวัน ก็ไปกราบรูปปั้นต่าง ๆ ดังนี้

  • กราบหลวงพ่อโต พรหมรังสี ปางพรมน้ำพระพุทธมนต์ สวดคาถาชินบัญชร ๙ จบ อธิษฐานขอให้ภรรยาของข้าพเจ้าหายจากโรคภัยไข้เจ็บ และมีความสุข
  • กราบรูปปั้นองค์พระสีวลี และท่องคาถาพระสีวลี (มีวางอยู่ใต้ฐานรูปปั้น) ๙ จบ แล้วอธิษฐาน ตามข้อ ๑
  • กราบรูปปั้นช้าง เจ้าพระยาไชยานุภาพ กราบอธิษฐานเหมือนข้อ ๑ และข้อ ๒

การปฏิบัติเช่นนี้ ข้าพเจ้าได้ทำด้วยความตั้งใจจริง เพราะไม่มีแนวทางอื่นที่จะเป็นที่พึ่ง หวังพึ่งในทางบุญ ที่ได้มาฝึกปฏิบัติธรรมเป็นที่พึ่งสุดท้าย

ถ้าหากมีบุญวาสนา และมีความศักดิ์สิทธิ์ และมีผลบุญตอบสนองการกระทำความเพียรจาก การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานครั้งนี้จริง คงจะทำให้แบ่งส่วนบุญไป ทำให้ภรรยาของข้าพเจ้าที่กำลัง ป่วยด้วยโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ และโรคอื่น ๆ ภายในกายได้บรรเทา เบาบางลงบ้าง หรือบางทีอาจหายได้เป็นปกติ

ข้าพเจ้าได้แต่คิดเช่นนี้อยู่เสมอ เพื่อเป็นการปลอบใจตนเอง ในขณะที่ภรรยาของข้าพเจ้าได้รับการรักษาพยาบาลอย่างดีจากแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลศรีนครินทร์ ในบริเวณมหาวิทยาลัยขอนแก่น่

ข้าพเจ้าขอกล่าวโดยย่อว่า ในขณะที่ข้าพเจ้าฝึกปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน เดินจงกรม นั่งสมาธิ เมื่อจิตเริ่มสงบได้พบเห็นอะไร ก็รีบไปพบอาจารย์ฝึก เพื่อขอคำแนะนำในการปฏิบัติ ในเวลาสอบอารมณ์ (หลังการปฏิบัติ)

การเดินจงกรม การนั่งสมาธิ เมื่อจิตสงบแล้ว มักมีปรากฏภาพต่าง ๆ หลายอย่าง หลายประการด้วยกัน ซึ่งไม่สามารถจะนำมาเล่า ณ ที่นี้ได้ เพราะเป็นสิ่งที่รู้เห็นได้เฉพาะตนเท่านั้น

การฝึกปฏิบัติของข้าพเจ้า ก็อยู่ในเกณฑ์ก้าวหน้าขึ้นเป็นลำดับ สมความตั้งใจไว้

เหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง ที่ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกดีใจ และปลายปลื้มปีติเป็นล้นพ้น จนบอกไม่ถูกคือ ในวันที่ ข้าพเจ้าได้กลับถึงบ้านพักในจังหวัดขอนแก่น เมื่อเวลาบ่าย ๑๔.๐๐ น. เศษ

ภรรยาของข้าพเจ้ารีบวิ่งลงมาจากบนบ้าน มารับข้าพเจ้าพร้อมกับยื่น หนังสือคำนิจฉัยโรคของนายแพทย์ (ที่ชำนาญโรคเฉพาะทาง) จากโรงพยาบาลศรีนครินทร์ให้ดูด้วยความดีใจจนน้ำตาไหล

ปรากฏว่า ผลของการเจาะตรวจโลหิต และการตรวจทางปฏิบัติการ ครั้งสุดท้ายที่ไปพบหมอตามนัด ในวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๓๖ หายจากโรคต่อมไทรอยด์ เป็นพิษ

ภรรยาของข้าพเจ้าเล่าให้ฟังว่า คุณหมดได้เรียกไปพบในห้องตรวจโรค แล้วสอบถามอาการต่าง ๆ เป็นเวลาพอสมควร ได้กล่าวแสดงความยินดีที่หายป่วยจากโรคนี้

โดยคุณหมอได้กล่าวว่า เป็นคนไข้รายแรกที่หายจากโรคนี้ได้เร็วกว่าคนป่วยคนอื่น ๆ ที่เป็นโรคเดียวกัน และหายได้อย่างเหลือเชื่อเลยทีเดียว

คนไข้ที่ป่วยด้วยโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ ที่เข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ขอนแก่น มาจากหลายจังหวัด บางคนป่วยมานาน ๗-๑๐ ปี ก็ยังไม่หายเลย

ภรรยาของข้าพเจ้าเริ่มป่วยและตรวจพบโรคนี้ แล้วรีบรักษาจนหายอย่างรวดเร็วเช่นนี้ เพียงเวลา ๕ เดือนเท่านั้น

เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ ข้าพเจ้าจึงมีความเชื่อมั่นเหลือเกินว่า จากผลการที่ได้เดินทางขอเข้ารับการฝึกปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานที่วัดอัมพวัน ตลอดระยะเวลา ๗ วัน

ทำให้อารมณ์และจิตใจของข้าพเจ้าเกิดความสุข และสามารถส่งผลบุญที่ได้รับ และแรงอธิษฐานจิตทำให้ภรรยาของข้าพเจ้าได้หายจากโรคที่ป่วยอยู่นี้ได้อย่างแน่นอน

สุดท้ายข้าพเจ้า ขอกราบคารวะ นมัสการมายังพระราชสุทธิญาณมงคล (หลวงพ่อจรัญ) ท่านเจ้าอาวาสวัดอัมพวัน ที่เคารพสักการะอย่างสูง

ขอให้บารมีของท่านจงแผ่ไปทุกทิศ เพื่อยังความร่มเย็นเป็นสุขกาย สุขใจ แก่มวลมนุษย์โลก ชั่วกาลนานด้วยเทอญ

และขอให้บรรดาแม่ชี และเจ้าหน้าที่ทุก ๆ คนของวัดอัมพวัน จงได้รับแต่ความสุขกาย สุขใจ โดยทั่ว ๆ กันทุก ๆ คน

 

สมภพ ชัยวิศิษฎ์
๒๔ เม.ย. ๓๖