คนมีบุญจึงจะเจริญกรรมฐานได้

โดย หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม
(พระนรินทร์ สุภากาโร-ถอดความ)

ท่านสาธุชนที่รัก โปรดตั้งใจฟังอย่างจริงจัง ด้วยกายานุปัสสนาสติปัฏฐาน มีการเดินจงกรมก่อน ยืนหนอห้าครั้ง กายยืนรู้ กายนั่งรู้ กายนอนรู้ กายเลี้ยวก็รู้อยู่ อย่างนี้ก็คือตัวกำหนดกายอยู่ตลอดเวลา กำหนดว่ายืนหนอห้าครั้งก็คือพิจารณา ตจปัญจกกรรมฐาน ขณะที่เรามีปัญจสาขาอยู่ในครรภ์ของมารดาเจริญเติบโตมา ถ้าพ่อมีบุญแม่มีบุญได้เจริญกรรมฐาน ลูกออกมาก็จะมีบุญวาสนาด้วย สมองกลดลบันดาล ลูกก็มีปัญญา ถ้าพ่อมีเวร แม่ซ้ำมีเวรสร้างเวรสร้างกรรมกันมา ลูกจะมีสมองดีไม่ได้ ออกมาก็เป็นคนใบ้บ้า เสียจริตผิดมนุษย์ เป็นคนปัญญาอ่อนไม่สามารถจะสอนให้เขาดีได้ นี่แหละกรรมมาจากพ่อแม่

เพราะฉะนั้นการเจริญพระกรรมฐานทำให้สะสมบุญ ทำให้มีคุณประโยชน์ถึงบุตรของตน อันนี้พระพุทธเจ้าสอนไว้ ที่เราสวดมนต์ว่า กัมมทายาโท กัมมโยนิ กัมมพันธุ กัมมปฏิสรโณ ยัง กัมมังกริสสามิ ปาปะกัง วา ท่านทั้งหลายเอ๋ย ที่เราสร้างบุญสร้างบาปกันมาเอง นี่แหละพ่อแม่สร้างความไม่ดีให้กับลูก ทำความไม่ถูกให้กับหลาน เวรกรรมก็จะโยนให้กับลูกของตน จุดมุ่งหมายอันนี้นี่แหละปัญจสาขา แยกออกมาจากท้องของมารดา บางคนก็ออกมากมือง่อย ขาก็ง่อย แถมหัวโตมีน้ำอยู่ในสมอง แล้วก็อยู่อย่างเป็นทุกข์ บางคนก็เป็นโรคตับโรคไต ก็เนื่องจากพ่อแม่สมประดีสร้างปาณาติบาตมา ใจดำอำมหิตเหี้ยมโหด ทารุณดุร้าย ลูกก็จะเป็นอย่างนี้ ออกมาอาการ ๓๒ ไม่ครบ เอาดีไม่ได้อย่างนี้เป็นต้น

นี่แหละ ท่านทั้งหลายที่มาปฏิบัติกรรมฐาน นับว่าเป็นโชคดี ของท่าน ท่านมาสร้างกำไรชีวิต ท่านมาสร้างข้อคิดให้กับตัวเอง ท่านทั้งหลายเสียสละมาเถิด จะประเสริฐในวันข้างหน้า ไม่ต้องเสียเงินเสียทองมากมาย อาตมาไม่เก็บเงิน ที่อยู่ก็ไม่ต้องเช่า ข้าวก็ไม่ต้องซื้อ อาตมาเลี้ยงเอง ไม่จำเป็นต้องมาออกค่าไฟฟ้าให้กับอาตมาหรอก อาตมาทำบุญกับโยม อาตมาเสียสละขาดเหลืออาตมาออกให้

อุตส่าห์ปวารณาโยมให้มาสร้างความดีถึงเช่นนี้แล้ว โยมยังไม่สนใจก็เป็นที่น่าเสียดาย เพราะเป็นบาปกรรมของโยมเอง บุญมีแต่กรรมมาบัง ทำให้มาสร้างความดีไม่ได้ มีมากรายด้วยกัน เชิญชวนเท่าไรก็ไม่มา นี่แหละ กรรมมันบัง เหมือนกับคนจะถูกรถชนตาย กรรมมันบังทำให้ไม่เห็นรถ ทำให้รถชนตัวเองตาย เราขับรถชนคนตาย กรรมมาบังทำให้ไม่เห็นหรือตัดหน้ารถอย่างกระชั้นชิด เราก็ชนเขาตายเพราะเวรกรรมตามสนอง จะต้องชนตรงนี้ด้วย แล้วเขาก็ต้องตายตรงนี้ด้วย แล้วเราก็ต้องตยตรงนี้ด้วย นี่เหตุการณ์ตายตัวแล้ว เป็นกฎแห่งกรรม ถ้าท่านเจริญกรรมฐานท่านจะรู้ได้ว่า เราสร้างเวรกรรมอไรมา

ท่านสาธุชนทั้งหลายเอ๋ย คนที่มีบุญถึงจะมาทำกรรมฐานได้ พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า ยอดสูงสุดที่เป็นมรดกโบว์แดงของเสด็จพ่อของเราคือ กรรมฐาน แต่สาธุชนทั่วโลกจะทำเหมือนกันไม่ได้เพราะนานาจิตตังต่างเวรต่างกรรมกันมา บางคนมาจากนรกมาเกิดในโลกมนุษย์ไม่สามารถเจริญกรรมฐานได้ เข้าวัดก็เดินผ่านไปผ่านมา เพราะกรรมมันบังจิตใจ คือทรพี ทรพาอกตัญญูต่อพ่อแม่ตลอดมา คนประเภทนี้จะเจริญกรรมฐานไม่ได้ ถ้าเจริญกรรมฐานต้องอกแตกตาย เพราะคิดไม่ดีกับพ่อแม่ คิดจะฆ่าพ่อฆ่าแม่

เมื่อเร็ว ๆ นี้ฆ่าพ่อตาย บอกให้มาเจริญกรรมฐานมันร้อนหมด พอเข้าวัดทนไม่ได้ต้องเอารถออกไป นี่เรื่องจริงที่วัดนี้ ฆ่าพ่อตายแล้วแม่เขาสงสารลูกเขา อุตส่าห์พาลูกมาจะเจริญกรรมฐาน นี่โยมเห็นไหมกรรมมันบังร้อน พอรถมาถึงวัดอัมพวัน เข้าวัดไม่ได้ ร้อนหมดเลย ปวดหัวเข้าไม่ได้ แม่นึกว่า ผีพ่อเข้าสิงเลยเข้ามาบอกอาตมาว่า หลวงพ่อช่วยดูลูกชายสิผีพ่อเข้าสิงไหม เปล่าเลยเวรกรรมมันตามสนอง ปิตุฆาต มาตุฆาต ห้ามสวรรค์ ห้ามนิพพาน นี่ฆ่าพ่อขอฝากไว้ทำกรรมฐานไม่ได้แน่ เลยก็ต้องหันรถกลับนี่เรื่องจริงที่วัดนี้ ผ่านมาสิบกว่าวันมานี่เอง คนประเภทนี้ไปสวรรค์ไปนิพพานไม่ได้

ดังเช่นอหิงสกะ ลูกของปุโรหิตาจารย์ จะไปฆ่าแม่คือ พราหมณี จะเอานิ้วมาบูชาครู พระพุทธเจ้าจึงสกัดกั้น ว่าอหิงสกะเป็นคนมีบุญ วาสนาจะสำเร็จมรรคผลนิพพานเป็นพระอรหันต์ตขีณาสพ พระพุทธเจ้าจึงเสด็จไปบิณฑบาตขอว่า อย่าไปฆ่าเขาเลยอหิงสกะเอ๋ย สมณะหัวโล้น หยุด ข้าจะฆ่าเจ้า เอานิ้วไปบูชา เหลืออีกนิ้วเดียวครบพันนิ้ว หยุดนะสมณะโล้น สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็หันมาบอก อหิงสกะเอ๋ย เราหยุดมานานแล้ว เจ้าสิยังไม่หยุด คนผู้มีปัญญาได้ทราบทิ้งดาบทันที อ๋อ! พระพุทธเจ้าได้หยุดทำความชั่วมานานแล้ว เรานี่ยังไม่หยุดทำความชั่ว เลยทิ้งดาบกราบทันที นี่เห็นไหมจะไปฆ่าแม่พราหมณี คือแม่ให้กำเนิดเกิดมา เห็นชัดเจนแล้ว อหิงสกะเลยได้บวชมีนามว่า พระองคุลิมาล สำเร็จมรรคผลนิพพานได้

นี่ขอฝากญาติโยมไว้ไปสอนลูกหลาน อย่าคิดไม่ดีกับพ่อแม่แลย ไม่ต้องถึงฆ่าหรอก แต่คิดว่าพ่อแม่เราไม่ดี จะทำมาหากินไม่ขึ้น เจ๊ง ท่านต้องแก้ปัญหาก่อน คือถอนคำพูด ไปขอสมาลาโทษพ่อแม่เสียแล้วมาเจริญกรรมฐาน รับรองสำเร็จแน่ มรรคผลเกิดแน่ ถ้ายังด่าพ่อแม่ทิ้งไว้ แล้วมาเจริญกรรมฐาน อาตมาขอเจริญพรว่าเจริญไปอีกร้อยปีก็ไม่ได้ผล เพราะเวรกรรมตามสนอง

หากท่านทั้งหลายเคยด่าท่านผู้มีพระคุณ ถอนคำพูดแล้วขอสมาลาโทษเสีย ท่านจะได้ผลจากการเจริญกรรมฐานทันที เหมือนพระภิกษุต้องแสดงอาบัติให้บริสุทธิ์เสียก่อน แล้วมาเจริญกรรมฐานจึงจะได้ผล เช่น แม่แต้มอยู่ที่บ้านเตาปูนใต้วัดสว่าง เจริญกรรมฐานมาตั้ง ๗-๘ ปี ไม่ได้ผลเพราะเรื่องอะไร อ๋อ! แกด่าสามีแกที่เป็นปลัดอำเภอชื่อ ปลัดเขียว แม่แต้มแกด่าผัวเก่ง มาปฏิบัติคราวรุ่นแม่ใหญ่ บอกแม่เต้มเอ๊ย ขออโหสิกรรมเสีย บอกดวงวิญญาณให้อนุโมทนาต่อพระสงฆ์ด้วย หลังจากนั้น ก็ขออโหสิกรรมให้ดวงวิญญาณรับทราบว่า พ่อเอ๋ย ฉันขอสมาลาโทษกายกรรม วจีกรรมต่อดวงวิญญาณ ขอพระสงฆ์รับทราบอนุโมทนาแล้วยะถาสัพพีให้ ตั้งแต่นั้นมา แม่แต้มเข้าผลสมาบัติได้ เจริญกรรมฐานได้ผบวันนั้นเลย

นี่อย่างแม่แต้มไม่มีเจตนาด่าให้สามีให้เสียหาย เป็นเพราะปากมันเคย เคยถามแม่แต้มด่าสามีจริงไหม จริงเข้าค่ะ ฉันนี่ปากไม่ดี ชอบด่าเขาแล้วเขาก็ไม่เถียงฉันด้วย เขาเป็นลูกไล่ฉัน เท่านี้ทำกรรมฐานไม่ขึ้นมา ๗-๘ ปี เลยขออโหสิกรรมแล้วก็หายไป แล้วแม่แต้มก็เข้าผลสมาบัติให้ นั่งได้ตั้ง ๘ ชั่วโมง แม่ใหญ่ทราบดีนะ แม่แต้มได้สิ้นชีวิตไปแล้ว ก่อนตายแกบอกอาตมาต้องไปนำศพ ทั้งที่อาตมาป่วยหนัก ก็ต้องไปนำศพแกไปเมรุ แล้วแกตายอย่างไร แก่ตั้ง ๘๐ กว่าร่วม ๙๐ แล้วตายแบบไหน เราก็รู้ว่าแกต้องตกบันไดตาย เพราะเมื่อก่อนแกผลักผัวแกตกบันได นี่ชัดเจนไหม ผลักผัวตกบันไดผัวเลยหัวทิ่มลงไป เท่านี่แหละทำให้แม่แต้มต้องตกบันไดตาย ขอฝากไว้อย่าสร้างเวรสร้างกรรมเลย

อีกบ้านหนึ่งพ่อมีเมีย ๔ คน มีลูกเมียหลวงติดตามพ่อไป แล้วมาบอกแม่ แม่ก็บอกพ่อเจ้าไม่ดี ลูกก็กลับไปด่าพ่อหาว่าพ่อไม่สงสารแม่ของตัว แล้วก็มาบวชที่วัดนี้ บวชแล้วเดี๋ยวเป็นโน่นเป็นนี่ ปวดหัวไม่พัก เป็นโรคจะกลายเป็นคน วิกลจริต อาตมาดูกฎแห่งกรรมแล้ว ถามว่านี่พ่ออยู่ที่ไหน บอกพ่ออยู่กับเมียโน้นเมียนี้ แล้วก็เคยด่าพ่อไหม บอกเคย พ่อทำแม่ผมเจ็บใจ ผมก็ด่าเอา นี่แหละไปบวชก็ไม่ได้ผล ไปถอนคำพูด ไปขอสมาลาโทษ กับพ่อเจ้าเสีย แล้วเจ้าจะมาเรียนมานั่งกรรมฐานได้ผลแน่ ๆ คนที่ไม่ได้ผลเพราะกฎแห่งกรรมตามสนอง

 

กรรมฐาน

อาตมาเคยแก้สองสามีภรรยาที่วัดนี้นะ ภรรยาก็บอกว่า ไปด่าสามีว่า ไอ้เหี้ย ไอ้เหี้ย หรือ อาเฮีย อาเฮีย ด่าอยู่ทุกวัน แล้วสามีก็ไม่รู้จะแก้อย่างไร ก็กลุ้มใจตลอดมา อาตมาเลยสงสารเขา เลยบอกให้สามีมานั่งกรรมฐานเถอะ เลยสามีก็พักร้อนมา ๑๐ วัน มานั่งกรรมฐานที่วัดนี้ นั่งเจริญกรรมฐาน จิตใจก็เป็นกุศลเลยแผ่เมตตาให้ภรรยา ภรรยาจะได้รับหรือไม่ก็ตามใจ ก็ได้ปัญญาไปแก้ภรรยาให้เป็นคนดี

นี่แหละกรรมฐานแก้ปัญหาแก้กรรมได้ ภรรยาคนนี้ดุมาก สามีต้องเป็นเบี้ยล่าง ด่าอาเฮียทุกวัน ทำไม่ดีก็อาเฮีย อาเฮีย ด่าทุกวัน แต่สามีก็ยิ้ม ไม่รู้จะแก้ได้อย่างไร ทำอย่างไรหนอ จึงจะแก้ภรรยาเรียกอาเฮียสักที ให้เรียกคุณพ่อสักหน่อย เพราะเราไม่ใช่คนจีนจะมาเรียกอาเฮียทำไม ก็ควรจะเรียกคุณพี่นะ

สามีก็เลยมานั่งกรรมฐาน สามีเป็นคนซื่อ มีความรู้ถึงปริญญาโทเป็นคนไม่อยากจะเถียงใคร ภรรยาก็ข่มเลยเรียกอาเฮียทุกวัน เลยสามีได้ธรรมะ แผ่เมตตาให้ภรรยาเป็นดนดีให้ได้

แล้วโยมนี่ก็กลับไป ภรรยาก็ว่า เป็นไงได้สวรรค์ ได้นิพพานมาเท่าไร เล่าให้ฟังซิ สามีก็ยิ้มและสวดมนต์แผ่เมตตา

อยู่มาวันหนึ่ง สามีเป็นซี ๗ ไปประชุม กลับมาก็ดึกเพราะไปแวะบ้านเพื่อน ภรรยาก็หาว่าสามีไปชุ่ยแช เอาเลยถกเขมร เลยด่า ไอ้เฮีย อาเฮีย มาจนดึกตจนตีสอง สามีได้ปัญญาจากกรรมฐาน ปัญญาออกมาบอกว่า นี่เธอนั่งเฉย ๆ ฉันจะพูดอะไรให้เธอฟังนะเธอนะ เอ้า! พูดมา อาเฮีย พูดมา พูดมา ไม่อยากฟัง นั่นแน่ยายคนนี้สวยซะด้วย มีไฝ ฝี ขี้แมลงวันเหมือนนางพันธุรัตน์ อาตมาเห็นก็ชื่นใจ แหม ! ถ้าเป็นสาว ๆ ก็ไปขอแล้ว นี่แกแก่ซะแล้ว เลยสามีใจดีแผ่เมตตาบอก น้อง เธอได้สามีก็ดีมาก เป็นมนุษย์จิตใสใจสะอาดบริสุทธิ์ อยู่กันมาจนมีลูกสามคน แล้วเธอก็นิสัยดี ลูกก็โตแล้ว เรียนก็เข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ไยเธอตอนนี้นิสัยเลวเล่า นิสัยเลวอย่างไร อาเฮีย พิโธ่เอ๋ย ! น้องเอ้ยค่อย ๆ พูดกันเถอะ วันนี้พี่จะขอตัดสินใจเอาหล่ะไม่เป็นไร เมื่อก่อนเธอได้ผัวเป็นมนุษย์ แต่เธอนิสัยไม่ดี ตั้งแต่เดี๋ยวนี้ เสียใจด้วย เธอเลิกมีผัวมนุษย์แล้วหรือ ถึงไปเอาเหี้ยมาทำผัวซะได้

เลยเก็บกระเป๋าเดินทางขึ้นรถทันที ถ้าเธอเอาเหี้ยทำผัว ฉันอยู่กับเธอไม่ได้ ฉันไม่ใช่เหี้ย ฉันเป็นมนุษย์โสภา เพราะฉันไปเจริญวิปัสสนากรรมฐานมา สามีเลยขึ้นรถไปเชียงใหม่หายไป ๑๐ วัน แล้วทำไง ฝ่ายภรรยาก็มาที่นี่ แต่อาตมาไม่คุ้นกันหรอก บอก หลวงพ่อค้า ช่วยฉันหน่อย สามีฉันหนีไป

บอก ช่วยไม่ได้ กลับไปก่อน ไม่สน อีกสองวันก็มาอีก มาบ่อย ๆ

อาตมาก็นึกทำอย่างไร ต้องทำให้เข็ด ก็บอกว่าต้องการให้ผัวกลับมา ต้องมานั่งกรรมฐาน อย่างนั้นหรือคะ หลวงพ่อ นั่งแล้วผัวจะมาไหม ก็ตอบว่า มาซิ เอาหัวเป็นประกัน

มานั่งยังไม่ทันเดินจงกรมเลย เดี๋ยวมาอีกแล้ว บอก หลวงพ่อ ผัวยังไม่เห็นมาเลย โอ้โห! แย่มาก ยายคนนี้ นั่งยังไม่ทันจะพองยุบ มาถามซะแล้วว่าผัวมาไหม

นั่งไปอีกวันหนึ่ง รุ่งขึ้นมาแต่มืดอีกแล้ว มานั่งปฏิบัตแล้ว คืนยันรุ่งเลย ก็เลยถามว่า นั่งปฏิบัติอย่างไร บอก พองหนอ ยุบหนอ ผัวไปที่ไหนหนอ พองหนอ ยุบหนอ เขาว่าไปทางเชียงใหม่หนอ แล้วผัวจะกลับมาไหมหนอ แหม! มันแย่จริง ๆ ยายคนนี้

ผลสุดท้ายก็เลยบอกว่า โยมนี่บาปมากด่าสามีนี่ โยมต้องขออโหสิกรรมต่อสงฆ์ก่อน เสร็จแล้ว นั่งกรรมฐานได้ดิบได้ดี ร้องไห้เลยบอกคิดถึงผัว โธ่! พิโธ่เอ๊ย ! เราไม่น่าจ้วงจาบด่าเขาเช่นนี้เลย ตั้งแต่นั้นมาอาตมาก็รู้กัน ก็โทรศัพท์ไปบอกสามีว่ากลับได้ ๆ

พอสามีกลับมาก็คืนดี นี่เดี๋ยวนี้อยู่ด้วยกันมีลูก ๕ คนแล้ว

นี่ขอฝากญาติโยมไว้ เล่าเรื่องจริงให้ฟังนะ