กรรมฐานป้องกันยาพิษ

โดย หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม

มีเรื่องอัศจรรย์เรื่องหนึ่ง เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๘ มีครอบครัวหนึ่งพ่อแม่เป็นคนใจบุญกุศล แต่ใจบุญสำหรับเอาหน้า ชอบทอดกฐิน ผ้าป่า ชอบทำบุญมาก ๆ มีนาอยู่ ๘๐ ไร่ ในสมัยนั้น มีเขยสองเขย เรียกว่าเขยเล็กและเขยใหญ่ เขยเล็กอยู่ที่จังหวัดชัยนาทเป็นคนขี้เกียจและขี้อิจฉาริษยา เขยใหญ่เป็นคนจังหวัดขอนแก่น มาเป็นลูกจ้างทำนาตั้งแต่อายุ ๑๗-๑๘ ปี ที่บ้านนั้น เขาบวชให้ได้มาศึกษาวิปัสสนากับอาตมาที่วัดพรหมบุรี จ.สิงห์บุรี จนได้มาเป็นลูกเขยบ้านนี้ มีนาอยู่ ๒ แห่ง แห่งหนึ่งเป็นนาดอน อีกแห่งเหนึ่งเป็นนาลุ่ม

เมื่อก่อนนี้ยังไม่มีคลองชลประทาน ต้องอาศัยน้ำไหลเข้าบางมาท่วมข้าว พ่อแม่ก็อคติ รักลูกเขยคนเล็ก เกลียดลูกเขยคนใหญ่ มีนาดียกให้ลูกเขยคนเล็ก นาไม่ดีให้ลูกเขยคนใหญ่ เขยคนเล็กได้นาลุ่มใช้ปลูกข้าวหนักข้าวกลาง เขยคนใหญ่ได้นาดอนปลูกข้าวเบาน้ำไม่ท่วม

เขยคนใหญ่นี้เป็นลูกศิษย์กรรมฐาน โง่ ๆ เง่า ๆ ไม่เอาเหนือเอาใต้ ไม่ค่อยพูดจากับใคร นั่งกรรมฐานทุกวัน ให้นาไหนก็เอาทั้งนั้น ได้นาข้าวเบาน้ำไม่ท่วม สองคนสามีภรรยาก็ช่วยกันทำคันนาให้สูงขังน้ำ ทำนาด้วย เจริญวิปัสสนาด้วย เขยคนเล็กได้นาลุ่มที่เขาเคยทำนาดี น้ำไหลเข้าไปในบาง พาผักบุ้งผักปอดไหลเข้าไปในนาเต็มไปหมด นาลุ่มที่เคยได้ดีกลับไม่ได้ นาดอนของลูกเขยใหญ่กลับได้ดิบได้

ดี อาตมาถามเขาว่า ทำนาดีได้อย่างไร เขาบอกว่า ทำไปอธิษฐานไปและเจริญวิปัสสนากรรมฐานที่นานั้น ทั้งสองสามีภรรยา นานั้นก็ดี ข้าวดีมาก ก็คันนาสูงทำด้วยตัวเอง ทำได้สองสามปี ปลูกบ้านได้หนึ่งหลังและซื้อนาเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแปลง

ฝ่ายพ่อแม่เกิดอคติ บอกกะเขยคนเล็กว่า นานั้นไม่ดีเสียแล้ว จึงมาขอเปลี่ยนนา เอานาดอนให้ลูกเขยคนเล็ก ลูกเขยใหญ่มาปรึกษาอาตมาบอกว่า “หลวงพ่อ ทำไมหนอ คุณพ่อตา แม่ยาย เขาทำอย่างนี้จะถูกไหม” อาตมาก็บอกว่า “เอาให้เขาเถอะ เขาอยากได้ มันไม่ใช่ของเรา เราก็ซื้อมาได้แปลง ๕ ไร่ก็ดีแล้ว สองคนสามีภรรยาค่อย ๆ ทำไปเถอะ

ในที่สุดก็ยกให้เขยเล็กไป เขยใหญ่ก็ไปทำนาที่ว่าผักปอดมันไหลตามบางเข้าไปในนา นาที่อยู่ท้ายบางก็ทำไม่ได้ สองคนสามีภรรยาก็ทำตามที่อาตมาสั่ง แล้วก็นั่งเจริญกรรมฐานอุทิศส่วนกุศล เขาไปตัดไม้ไผ่มาปักหลัก แล้วก็ทำราวยาว ๆ กั้นไม่ให้ผักปอดเข้านา มันก็ไหลไปที่อื่นต่อไป นากลับได้ดีขึ้นมา ข้าวเจริญงอกงามดีมาก ความอคติของพ่อแม่จิตใจเลย รักลูกเขยคนเล็กมาก ก็บอกลูกเขยคนใหญ่ว่า เอาอย่างนี้เถอะลูกเอ๋ย นานี่ดีอีกแล้ว ทำดีนี่ ให้เขยเล็กสักปีเถอะ เจ้ากลับไปทำนาดอน

เขยเล็กไปทำนาดอนก็ขี้เกียจ ไม่เจริญกุศล บำเพ็ญกุศลก็ไม่เอา เจริญวิปัสสนาก็ไม่เอา อาตมาไปบอกที่บ้าน เอาอย่างนี้ซิ เอาอย่างเขยใหญ่ เขาเจริญกรรมฐาน เขาบอก ผมไม่ชอบ ผมไม่ใช่นักกรรมฐาน ผลสุดท้ายทำนาดอนก็ไม่ได้อีก เกิดฝนแล้ง น้ำไม่ท่วม

มันเป็นไปโดยธรรมชาติของกฎแห่งกรรม ทำนาลุ่มก็ไม่ได้ ทำนาดอนก็ไม่ได้ ในที่สุดก็ยกนาทั้งสองแปลงให้เขยเล็กไปหมด เขยใหญ่ก็ทำนาที่เขาซื้อใหม่ และนั่งกรรมฐาน อุทิศส่วนกุศลให้เขยเล็ก ที่คิดอิจฉา วันหนึ่งเขยเล็กกับภรรยา คือ ลูกสาวของบ้านนั้นเกิดเอายาพิษไปวาง จะฆ่าเขยใหญ่ให้ตายแล้วเอาสมบัติทั้งหมด ไปวางที่ที่เขยใหญ่เคยนั่งทานข้าว ครอบครัวนี้ทานข้าวร่วมกัน เขยใหญ่เพิ่งจะปลูกบ้านแยกออกไป แต่ยังไม่ได้แยกบ้าน

เขยใหญ่กับภรรยาสวดมนต์เจริญกรรมฐาน มีนิมิตขึ้นมาบอกว่า วันพรุ่งนี้ตอนบ่ายอย่าทานข้าวนะ มันเกิดนิมิตขึ้นมาเองและจงแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวรไป ในที่สุดก็มารวมวงทานข้าวกัน แม่ยายตัวสำคัญทานเข้าไปก่อนเลย ลูกสาวคนเล็กก็พลอยทานไปกับแม่ด้วย เลยก็ตายเพราะอำนาจยาพิษนั้น ตายหมดทั้งคู่ อันนี้ชี้ให้เห็นได้เลยว่าความริษยาเป็นกฎแห่งกรรม และอานิสงส์แห่งการเจริญ

วิปัสสนากรรมฐานนี้นะ ช่วยให้รอดพ้นได้ ผู้ปฏิบัติธรรมที่รักทั้งหลาย ท่านจะเห็นว่าอย่างไร ช่วยกันวิจัยหน่อย เขยใหญ่คนนี้นะรวยมหาศาล เลยเป็นผู้อุปถัมภ์ที่วัดนี้ อาตมาจะไม่ขอบอกชื่อว่าเป็นท่านผู้ใด อำนาจของบุญกุศลภาวนานี่สูงสุดแล้ว ไม่ได้ใช้คาถาเลยนะ ขอให้จิตตั้งใจถึงเถอะ

อาตมาถึงได้บอกแก่ญาติโยมคนเฒ่าคนแก่นะ ให้สมบัติลูกอย่าหวังผลตอบแทนซิ ให้ลูกไปแล้วยังเอาคืนอีก คนแก่แบบนี้ถึงตายไปเป็นเปรต เพราะไม่ได้เจริญวิปัสสนากรรมฐาน จิตไม่ถึง คนประเภทนี้ชอบทอดกฐิน ใครมาพูดหวาน ๆ ละก็ควักกระเป๋าขาดเลย ทำบุญเอาหน้า ศรัทธาหัวเต่า ๆ ยืดเข้ายืดออก ถ้าใครไปแหย่หน่อยละก็ยืดออกไปเลย นี่คนประเภทนี้ตายไปแล้ว โดนยาพิษที่ลูกวาง ลูก

ตั้งใจวาง แต่ไม่ตั้งใจจะฆ่าพ่อแม่ ตั้งใจจะฆ่าเขยใหญ่กับพี่สาวใหญ่ แต่แม่ยายก็ไม่ได้คิดถึงว่าจะวางยาพิษลูกเขยกับลูกสาว ดูนะนักปฏิบัติธรรมที่รักทั้งหลาย อันนี้เรื่องจริงที่ผ่านมา เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๘ เป็นเวลานานมาแล้ว นี่แหละเป็นหลักฐานสำคัญที่คู่กับหมอชลอที่มีกฎแห่งกรรมที่น้ำตกเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี

ขอนักปฏิบัติธรรมโปรดได้ทราบ มันมีทุกข์ ทุกข์อยู่ที่ไหนมันไม่เกินทุกข์ที่ใจ โรงอิฐเราพังไปก็ช่างมันเถอะ แผ่ส่วนกุศลไป เหมือนพระภิกษุ โยมมารดามารบเร้าให้สึกไปช่วยถางนา นารกมีต้นเส้งขึ้นมากมาย ท่านแผ่ส่วนกุศลไปต้นเส้งหายไปไหนหมด สมัยนั้นไม่มียาฉีดเลยนะ นี่แหละอำนาจบุญกุศลที่ลูกเจริญกรรมฐาน อุทิศให้พ่อแม่ พระภิกษุรูปนั้นเลยไม่ต้องสึก บวชต่อมาอีกหลายพรรษา

สำคัญสติไม่ดี คอมพิวเตอร์ไม่ดี กระแสไฟไม่พอ มันก็ไม่สามารถจะช่วยดลบันดาลได้ดังกล่าวมานี้ ในที่สุดพ่อตาไล่ลูกเขยคนเล็กไป สมบัติพัสถานตกเป็นของเขยใหญ่หมด โดยไม่ได้อยากได้ไยดี ไม่มีอำนาจโลภะเลย ขอนักปฏิบัติธรรมทั้งหลายจงวิจัย อย่าเพิ่งเชื่ออาตมาเพราะเรื่องมันเป็นแล้วอย่างนี้ กรรมฐานสามารถป้องกันยาพิษได้ ไม่ใช่หมายความว่า วิปัสสนาเป็นคาถาแล้วยาพิษจะเสื่อมลง ยาพิษไม่เสื่อม แต่เขาไม่ตาย มันหลีกออกไปได้

เพราะฉะนั้นคนเฒ่าคนแก่รักษาอุโบสถัง ๆ อย่างนี้ทั้งนั้นฉันให้นาเธอไป ถ้าเธอดีฉันก็จะยกให้ เธอไม่ดีก็ไม่ยกให้ อย่างนี้ไม่ถูกธรรมะ ให้แล้วก็แล้วกันซิ เขาจะเอาไปอย่างไรก็ช่างเขาประไร เขาจะเลี้ยงเราหรือไม่เลี้ยงเรา เรามันไม่ดีเอง นิสัยเรามันไม่ดีเขาจึงไม่เลี้ยง อย่าไปโทษลูกเขาเลย

เดี๋ยวนี้ ตามศาลาวัดอุโบสถังอย่างนี้ทั้งนั้น ตายไปเป็นเปรต เป็นเปรตกันมาก เพราะจิตนี่เอง นี่แหละทำบุญหัวเต่า ศรัทธาหัวเต่า แหย่เมื่อไรโผล่เมื่อนั้น ถ้าไม่แหย่ไม่ค่อยโผล่ทำนองนี้

อันนี้เรื่องจริงของอาตมาที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นด้วยกฎแห่งกรรมชัดมาก สองสามีภรรยาเขยใหญ่ไม่พูดเลยนะ ไม่มีพูด ไม่ปริปากเลย หนักเอาเบาสู้ทั้งนั้น มีข้อหมายมุ่งของเขาอยู่ข้อเดียว เขาพูดว่า แม่หนู  เราก็นั่งกรรมฐานของเราเถอะนะ ไม่มีอะไรช่วยเราได้แล้ว ลูกเขาก็มีหลักฐานมั่นคง เดี๋ยวนี้ไปอยู่ที่นครราชสีมาบ้าง มีหลักฐาน มีหลานก็ร่ำรวย รับราชการ ทำหน้าที่อย่างนี้ทุกคน