โทรจิต

โดย หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม

พระภิกษุ หาสจิตฺโต (วีโก้) Bhikku Hasacitto (Viggo) ขณะบำเพ็ญวิปัสสนากรรมฐาน แผ่เมตตาให้มารดาผู้ซึ่งกำลังป่วยอยู่ที่ประเทศนอร์เวย์

เรื่องโทรจิตทางใจ มี นายวีโก้ ที่มาต่อปริญญาโทที่จุฬาฯ เป็นชาวนอรเวย์ อาตมาคิดว่าคงจะเป็นฝรั่งชาติฮอลันดามาบวชที่นี่ เขาเป็นชาวคริสต์ บิดาเป็นวิศวกรไฟฟ้าแห่งนอรเวย์ ปู่เขาเป็นศาสตราจารย์ภาคคณิตศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยออสโล มารดาเป็นเลขานุการมหาวิทยาลัยออสโล มีลูกชายคนเดียวชื่อ วีโก้ มีลูกสาว ๒ คน วีโก้เรียนอักษรศาสตร์ภาษาไทยเรียนหลายภาษามาต่อปริญญาโทที่ประเทศไทยที่จุฬา

ปู่เขาเป็นศจ.บอกกับหลานว่า เจ้าไปประเทศไทยจงเอาของดีมาฝากปู่ เพราะปู่อ่านพระไตรปิฎกเป็นภาษาอังกฤษที่มหาวิทยาลัยของเราทุกศาสนามีให้เรียน อ่านแล้วซึ้งใจในภาคปฏิบัติธรรมเหลือเกิน ไปแล้วจงเอามาฝากปู่ให้จงได้ เขาก็โน้ตแล้วให้ปู่เซ็นชื่อไว้ ฝรั่งนี่ทำอะไรละเอียด ก็มาเรียนที่จุฬาฯ เขามาสิงห์บุรี อยากจะมาดูชาวบ้านแป้ง คนเวียงจันทน์ย้ายมาตั้งแต่สมัยเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก บ้านนี้มีอาชีพทางปั้นหม้อ ทำเครื่องช่างต่าง ๆ ทำทอง

ที่บ้านแป้ง มีเจ้าคุณองค์หนึ่งชื่อ เจ้าคุณพรหมโมฬี ก็ไปกราบนมัสการพระคุณเจ้านี้ มีปัญหาถาม ๑๐ ข้อ แต่เจ้าคุณไม่สามารถตอบได้ ก็เลยพาฝรั่งมาหาอาตมาที่วัดนี้ แต่อาตมาก็ไม่ทราบว่าตอบถูกหรือผิด ตอบไปแล้วเขาก็ลากลับ กลับไปได้ ๑๐ กว่าวันเศษ แบกหีบมาที่วัดบอกกระผมขอบวชที่วัดนี้ ขอเจริญวิปัสสนากรรมฐานตามที่ปู่มีความประสงค์ อาตมาบอกไม่ได้คุณเป็นชาวต่างประเทศต้องได้รับอนุญาตจากบิดา มารดาเสียก่อน จึงจะบวชได้ ไม่งั้นบวชให้ไม่ได้ เขามีใบแสดง ฝรั่งเขามีว่าพออายุเท่านี้ก็หมดหน้าที่ แล้วปู่เขาก็มีในฐานะของพ่อแม่ ก็ได้อนุญาตให้เขาเอาของดีมาฝากให้ได้โดยการบวช อาตมาก็อนุญาต

ฝรั่งคนนี้เก่งมาก ท่องขานนาคได้ใน ๓ ชั่วโมง แล้วก็วินัยของพระรู้มาก่อน เพราะเขาเรียนหนังสือไทยเขียนได้ดีมาก บวชแล้วเจริญวิปัสสนากรรมฐาน ทำได้เคร่งครัด ๔๕ วัน สามารถโทรจิตได้ เขาถามว่าผมอยากจะกราบเรียนถามว่า คนไทยชาวพุทธเวลาเขาตายกัน กรวดน้ำได้ไม่ได้ไม่รู้ ผมอยากจะถามว่า อุทิศส่วนกุศลแผ่เมตตาให้กับพ่อแม่ที่ยังมีชีวิตอยู่จะได้รับไหมครับ

อาตมาเห็นว่าจิตเขาสูงแล้วพอสมควร สามารถจะโทรจิตได้ พอดีแม่เขากำลังป่วยหนัก พักฟื้นอยู่ที่บ้าน เขาอยากจะอุทิศส่วนกุศลไปด้วยบุญกุศลอย่างนี้ จะได้รับมั๊ย ก็บอกเขาว่าได้ เขาก็เดินจงกรมแล้วนั่ง เสร็จแล้วก็อธิษฐาน เวลาอธิษฐานจะแผ่เมตตา อย่าทำกำลังนั่ง เวลาส่งผลก็เช่นกัน ต้องทำให้เสร็จกิจก่อน ทำให้งานเสร็จก่อน เราจะเดินจงกรม ๑ ชั่วโมง นั่ง ๑ ชั่วโมง เสร็จกิจในการภาวนาก่อน แล้วค่อยสวดมนต์แผ่เมตตาโดยอโหสิกรรม ทำให้จิตใจสบายเบิกบาน แล้วแผ่ได้เลยอุทิศได้ตอนหลัง ไม่ใช่นั่งด้วยแผ่ไปด้วย จะไม่ได้รับ

Hasacitto (Viggo) ขณะศึกษาวิปัสสนากรรมฐานกับพระอาจารย์ พระครูภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อจรัญฯ)

พอทำเสร็จแล้ว เขาก็อธิษฐานจิตหลังจากนั่งภาวนาหมดกิจเสร็จเรียบร้อยแล้ว อโหสิกรรมต่อกันให้จิตใจเบิกบานบริสุทธิ์ เขาอธิษฐานว่า ในวันนี้เป็นวันชาติของข้าพเจ้า แม่ของข้าพเจ้ากำลังป่วยหนัก ด้วยบุญกุศลของลูกที่ได้บำเพ็ญกุศลได้บวชในพระศาสนาและได้เจริญวิปัสสนากรรมฐาน ถ้าเป็นความจริงดังกล่าวแล้ว ขอให้แม่ของข้าพเจ้าหายจากโรคภัยไข้เจ็บทันที

ประการที่ ๒ ปู่ของข้าพเจ้าที่ต้องการจะให้หลานเอาของดีไปฝากบัดนี้หลานได้ของดีแล้ว

ประการที่ ๓ ขอให้เพื่อนของข้าพเจ้าอีก ๓ คนที่อยู่บ้านใกล้เรือนเคียงกันที่เรียนหนังสือมาด้วยกัน จงมีความสุข ความเจริญโดยทั่วหน้ากัน ในเมื่อทั้ง ๓ นี้ได้รับแล้ว ขอให้ตอบทางจดหมายทันที

อธิษฐาน ถึงเดี๋ยวนั้นไม่ต้องรอเวลาเหมือนไปรษณีย์ วันนั้นพอดีเป็นวันชาติของนอรเวย์ เขาก็มาพักคุยกันที่บ้านของวีโก้ อยู่ที่ออสโล คุยกัน แม่เขานอนอยู่ในห้องพักฟื้น กำลังป่วยแต่กลับจากโรงพยาบาลแล้ว ยังอ่อนเปลี้ยอยู่ในห้อง เวลาส่งโทรจิตที่นี่เป็นเวลากลางคืน ๔ ทุ่ม ที่โน่นเป็นเวลาเช้า เวลาไม่เท่ากัน รู้ได้จากการตอบรับหนังสือ ขณะนั้นปู่เห็นผ้าเหลืองแวบผ่านหน้าไป ทุกคนก็สังหรณ์พร้อมใจกันคิดถึงวีโก้ทันที ก็คุยเรื่องวีโก้ ปู่เขาก็เข้าใจว่าหลานคงจะได้บวชในพระพุทธศาสนาเพราะผ้าเหลืองผ่านหน้าแล้วก็หายไป พ่อเขาก็พูดถึงวีโก้เรียนอักษรศาสตร์ที่จุฬา แม่กำลังคิดถึงลูกชายก็ได้ยินพูดถึงวีโก้ลูกชาย ปู่พูดว่าเห็นผ้าเหลืองแวบ แม่ก็คลานออกมาอารามดีใจคิดถึงลูก เลยหายออกมานั่งโต๊ะคุยกันเป็นชั่วโมง พอคุยกันแล้ว แม่ก็เริ่มเขียนหนังสือ เขาเขียน วัน เดือน ปี ลงเวลาด้วย ก็เขียนถึงวีโก้ลูกรัก เหตุการณ์เกิดขึ้นที่บ้านของเราวันนั้นเป็นวันชาติ เพื่อนของเจ้าด้วยก็มาอยู่ที่นี่ พ่อและปู่ ปู่ของเจ้าเห็นผ้าเหลือง ถามว่าเจ้าบวชจริงมั้ย แล้วปฏิบัติกรรมฐานจริงเท็จประการใด แม่ตอนนี้กำลังพักฟื้น เขาเห็นผ้าเหลืองแล้วก็พูดถึงลูก แม่ก็หายทันที เขียน ๔-๕ หน้ากระดาษกว่าจะมาถึงวัดหลายวัน ผ่านที่จุฬาฯ ก็ส่งมาให้ที่วัด พอพระวีโก้อ่านแล้วน้ำตาร่วงทันที เขาก็แปลให้ฟัง ตอนนั้นเขาขอเวลาอาตมาวันละชั่วโมงตอน ๓ ทุ่ม อาตมาจะไปไหนไม่ได้ เขาว่าผมข้ามน้ำข้ามทะเลมาท่านต้องไปไหนไม่ได้ ๑ ชั่วโมง ดังที่กล่าวมานี้ยังมีหลักฐานอยู่

ในเวลากาลต่อมา วีโก้จะจบหลักสูตร ก็ต้องกลับประเทศนอรเวย์ หลักการเขามีอยู่ว่า ถ้าไปเรียนมหาวิทยาลัยไหนก็ตาม ถ้าจบแล้วต้องไปเป็นทหาร ๑ ปีไม่ต้องจับใบดำ ใบแดง ประเทศเขามีหลักอย่างนี้ ทุกคนเป็นทหารหมด ๑ ปี แต่เขาไม่นิยมรบกับใคร วีโก้ก็มาบอกกับอาตมาว่าผมจบหลักสูตรปริญญาโทแล้ว อยากจะอยู่ประเทศไทยต่ออีก ๑ ปี จะทำอย่างไร

อาตมาก็แนะนำให้ คือ ทำเหมือนเดิม อธิษฐานจิตเดินจงกรม ๒ ชั่วโมง นั่ง ๒ ชั่วโมง แล้วขอแผ่ถวายเป็นกุศลถึง

๑. องค์พระมหากษัตริย์แห่งกรุงสยาม

๒. อธิการบดีและอาจารย์ภาควิชาของเขา

๓. ถึงประเทศนอรเวย์ มีบิดา มารดา ครูอาจารย์

๔. แล้วก็แผ่ถึงกระทรวงกลาโหมให้ยับยั้งเวลาการเป็นทหารอีก ๑ ปีต่อไป

วีโก้ทำติด ๆ กัน ๒ คืน แล้วขอลาเข้ามหาวิทยาลัย สิกขาลาเพศ พอลาไปแล้วก็บอกอาตมาว่า ถ้า

นั่งสมาธิแล้วดูหนังสือ จำวรรคตอนบรรทัดในหนังสือนั้นได้

ผมไม่ได้อยู่ต่อไป ก็อาจจะเขียนจดหมายแจ้งช้าหน่อย ถ้าได้อยู่ต่อไปก็จะรีบส่งโทรเลขมาให้ทราบ เขายังถาว่า แม่ราตรีที่เป็นคนไทย ผมจะขอแต่งงานกับเขา เพราะรักกันมาหลายปี ตั้งแต่อยู่เมืองนอก หลวงพ่อเห็นสมควรหรือไม่

อาตมาบอกไม่ทราบไปนั่งกำหนดสติเอาเอง ว่าจะแต่งงานได้หรือไม่ได้มีประโยชน์เหมือนกัน ก็ไปนั่งเดี๋ยวมาบอกก็แล้วกัน หลังจากนั้นเขาก็มาบอกว่าหลวงพ่อถ้าจะไม่ได้แต่งงานเสียแล้ว รู้ได้ยังไง สติบอก บุพเพสันนิวาสไม่ได้แต่งงานกับคนนี้ ผมจะต้องได้ไปแต่งงานกับคนง่อยกำพร้าพ่อแม่ สติบอกได้

ในที่สุดเขาก็กลับไป เขาดีกว่าคนไทย ขอเทียนแพใส่พานดอกไม้ กรวย เขาก็ไปไหว้อธิการขอศีลขอพร ไหว้บ้านเหนือ บ้านใต้ก่อนไป เที่ยวลาคนโน้นคนนี้ คนไทยไม่เอาไหน ขอพรใครที่ไหน สึกแล้วยังไม่ทันไร หนีไปแล้ว ยังไม่ลาพระอาจารย์เสียด้วย จึงไม่ได้รับพร จึงได้มีอายุไม่ยืน

อาตมาก็ให้เขาทำกรวยผ้าไหมให้เขาก็ไปกราบขอพรอธิการของเขายังไม่ทันวางพาน พอเข้าไปอาจารย์บอกว่า วีโก้คุณได้อยู่ต่ออีก ๑ ปี เท่านั้น น้ำตาร่วงเลย เขามีหนังสือยืนยันจากนอรเวย์ กระทรวงกลาโหมให้คุณอยู่ต่อในประเทศไทยได้อีก ๑ ปี อยู่ได้คืนเดียวกลับมาแล้วรายงานให้อาตมาทราบ นี่ด้วยอำนาจบุญกุศล ขอได้ฟังได้พิจารณาด้วยตนเอง เพราะมันเกิดขึ้นแล้วที่นี่ นี่เรื่องของแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลก็ได้อยู่ต่อ ๑ ปี พอกลับไปก็ไปเป็นทหารแล้วส่งข่าวให้อาตมาเรื่อยมา

อาตมาดีใจอย่างหนึ่ง ทางราชการเคยส่งพวกโรงไฟฟ้าไปดูงานที่นอรเวย์ อาตมาก็จดหมายบอกไป เขาให้พักที่บ้านเลย เปิดโรงไฟฟ้านอรเวย์ให้ดูวันอาทิตย์เลย เขาเป็นหัวหน้าใหญ่ เขาบอกเขารักลูกเขาอย่างไร รักคนไทยอย่างนั้น สามารถจะสงเคราะห์ให้ลูกเขาได้บวชในพระศาสนา เอกอัครราชทูตนอรเวย์มาดูตัวอาตมาที่วัด อยากดูตัว หัวหน้าศาสนาหน่อยไปเอาลูกเขามาบวชได้ยังไง

วีโก้ออกไปจากประเทศไทยไปเป็นทหาร ๑ ปี แล้วไปบรรจุเป็นอาจารย์ที่เดนมาร์ก สอนมหาวิทยาลัยเดนมาร์ก ตอนหลังได้มีโอกาสมาทำวิทยานิพนธ์เรื่องผี เขาให้โอกาส ๓ ปี เลยในที่สุดก็ไปเจอแฟนง่อย แต่งงานกันที่เดนมาร์กเป็นง่อยจริง ๆ กำพร้าพ่อแม่ เป็นอาจารย์สอนภาคภาษาจีนกลางเป็นโรคโปลีโอที่ขา เดินไม่ได้ เป็นตั้งแต่รุ่น ๆ เป็นชาวฟิลิปปินส์ ญาติพี่น้องส่งเรียน มาบรรจุเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเดนมาร์ก เลยรักกันแต่งงานกัน อันนี้ไม่ต้องหาหมอดู พอมีลูก ๒ คน ก็ได้มาเขียนวิทยานิพนธ์เรื่องผีที่จังหวัดเชียงใหม่ เขียนปีครึ่งจบ พอไปสอนที่เดนมาร์กว่าผีมีจริงมั้ย ที่พ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงทางเชียงใหม่ถือผีกันที่ซางดอย มันเป็นประวัติมาอย่างไร เอาไปสอนมหาวิทยาลัยของเขา

เขากลับมาก็พาภรรยามาด้วย เอามาอวดอาตมาว่าเขาได้คนง่อยจริง ๆ ที่กล่าวมาแล้วก็เลยนับถือพุทธศาสนาตามสามีมาจนบัดนี้ แต่เดิมเป็นชาวคริสต์เอาลูกมาด้วยมาค้างที่วัดนี่หลายวัน เดินทางไปเขียนวิทยานิพนธ์เรื่องผีมาจากไหน เป็นอย่างไรเรียกว่าผี แล้วทำไมถึงถือผีอย่างไร ก็เอาไปสอนเดี๋ยวนี้เป็นศาสตราจารย์แล้ว ที่บ้านเขามีโต๊ะหมู่บูชา พระบูชาซึ่งอาตมาส่งไป

พอสมควรแล้ว สำหรับเรื่องของวีโก้ ที่ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ที่วัดอัมพวันจนสามารถส่งโทรจิตไปยังญาติพี่น้อง ณ ประเทศนอรเวย์ได้………