ได้พบแนวทางชีวิตใหม่

โดย อานนท์ โคตรทุม

ผมชื่อนายอานนท์ โคตรทุม (ปุ๊ สายันต์) จะขอเล่าประวัติของผมเอง และบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับวัดอัมพวันและหลวงพ่อจรัญ

ผมทำงานที่ บ.ข.ส. ขอนแก่นเป็นพนักงานรถร่วมของบริษัทสายันต์เดินรถ วิ่งระหว่างจังหวัดอุบลราชธานี-จังหวัดอุดรธานี โดยผมเป็นนายท่าดูแลกิจการเกี่ยวกับผลประโยชน์และรถโดยสารของบริษัทฯประจำจังหวัดขอนแก่นโดยหน้าที่และการงานที่เกี่ยวกับการรักษาผลประโยชน์ของบริษัทฯ ทำให้ผมเป็นคนดิบคนเถื่อน ชอบทำร้ายคนที่ขัดต่อผลประโยชน์ของผมและบริษัทฯอยู่เสมอ ทุ่มเทแรงการแรงใจเพื่องานอย่างสุดตัว ไม่เคยกลัวใครหน้าไหนทั้งสิ้น

โดยที่เป็นการทุ่มเททุกอย่างเพื่องาน แต่ในด้านส่วนตัวและครอบครัว ผมกลับเป็นคนเหลวไหลขาดความรับผิดชอบ มักมากในกามคุณ เล่ห์เหลี่ยมปลิ้นปล้อนหลอกลวงผู้หญิงสารพัด แม้แต่ภรรยาสุดที่รักก็ยังโกหกตลบแตลงกับเธอมาตลอด ด้วยความเป็นคนเหลวไหลต่อครอบครัว จึงทำให้ผมพบกับความวิบัติ เมื่อเธอผู้ที่เป็นที่รักทนอยู่ไม่ได้ จากไปโดยไม่มีข่าวคราวอันใด

ความรู้สึกตอนนั้นมีปีติยินดียิ่งนักที่เธอจากไป ผมจะได้มีอิสระไม่ต้องมีคนคอยขัดขวางในการกระทำความชั่วต่อผู้หญิงอีก แต่แล้วหาเป็นเช่นนั้นไม่ เพราะยิ่งนานวันไปเท่าไหร่ ความรู้สึกรักและเสียดายกลับเพิ่มทวีขึ้นจนไม่อาจยับยั้งได้ นับเป็นความสูญเสียที่ไม่อาจประเมินค่าได้ ผมต้องรับกรรมชั่วที่ผมทำไว้กับเธอด้วยความระทมขมขื่น กรรมที่ผมได้ก่อนไว้กับผู้หญิงคนอื่นๆ ดูเหมือนจะประดังเข้ามาในตอนนี้ ผมหมดปัญญาที่จะแก้ปัญหาในชีวิต เหล้าเบียร์คือที่พึ่ง งานการเริ่มเละเทะ ขาดความรับผิดชอบ ทุกอย่างเหมือนคนสิ้นหวัง ทุกสิ่งไร้การแก้ไข หมดปัญญาหาทางออกไม่ได้ ความตายอยู่แค่เอื้อมแล้ว

แต่แล้วอาจจะเป็นเพราะบุญกุศลผมยังมีอยู่ จนเมื่อวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๓๘ ผมก็ได้พบกับผู้มีพระคุณต่อผมท่านหนึ่ง ทราบชื่อของท่านแต่เพียงว่า “คุณบุญส่ง” เมื่อท่านทราบปัญหาในชีวิตของผม ท่านบอกเลยว่า ผมจะต้องไปถือศีลที่วัดอัมพวันให้ได้ เมื่อไปที่วัดอัมพวัน ด้วยความที่ไม่เคยพบพระ ไม่เคยศรัทธาในพระศาสนาและพระสงฆ์ จึงได้ให้สัจจะรักษาศีลเพียง ๓ วันเท่านั้น

ตลอดเวลาที่ได้บำเพ็ญภาวนาอยู่ที่นั่น ทำให้ผมได้สติ ได้พบกับตนเอง ได้พบกับความจริงคือความไม่เที่ยง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ตามกาลเวลา ผมเริ่มมีสติยั้งคิด เริ่มพิจารณาไตร่ตรองในสิ่งที่ผมประสบว่ากรรมที่ผมได้รับอยู่ทุกวันนี้ ก็เพราะการกระทำที่ผมได้ก่อขึ้นเองไม่มีใครทำให้ ผมเป็นคนทำลายครองครัวจนพินาศย่อยยับ ก็แล้วจะเหลือครอบครัวที่ไหนไว้ให้ชื่นชมอีก

นับแต่ที่กลับจากวัดอัมพวัน ชีวิตผมเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ทุกวันนี้ผมมีความสุขอยู่กับบุญกุศลที่ได้กระทำ จากคนที่ไม่เคยไหว้พระ ไม่เคยศรัทธาในพระศาสนากลับนำสิ่งเหล่านั้นมาปฏิบัติ น้อมนำเข้ามาใส่ตัวได้ กระทำตนดำรงอยู่ด้วยหลักธรรมคำสั่งสอนในพระพุทธศาสนา และหลวงพ่อจรัญ นำเอาหลักธรรมมาปฏิบัติร่วมกับงานที่กระทำให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองทั้งในหน้าที่การงานและชีวิตครอบครัว กับลูกน้อยที่เธอทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า

ทุกวันนี้ผมกับลูกสาวตัวน้อยๆ มีความสุขมาก เพื่ออนาคตที่ดีงาม เพื่อลูก จะขอกระทำแต่สิ่งที่ดีตลอดไป และจะขอแก้กรรมด้วยธรรมะ

หลวงพ่อจรัญ ทำให้กระผมมีชีวิตใหม่ ผมจึงขอปวารณาตัวเป็นศิษย์ ขอรับใช้ในกิจการหลวงพ่อ และพระพุทธศาสนาสืบไป